การขุดบ่อเลี้ยงปลา 4 ระดับ
การขุดบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งนิยมขุดตัดชันตรงลงไป วิธีนี้ได้ประโยชน์น้อย หากอยากเลี้ยงปลาจะได้ผลไม่ค่อยดีนัก จึงควรขุดแบบแบ่งเป็น 4 ระดับ คือมีระดับตั้งแต่ตื้น ลึก แตกต่างกันเป็นชั้นๆเลียนแบบหนองน้ำหรือบึงธรรมชาติ ด้วยว่าธรรมชาติของปลามักวางไข่ในน้ำตื้น โดยเฉพาะปลาน้ำตื้นอย่างปลานิล และพืชน้ำมักเจริญเติบโตได้ดีในระดับน้ำตื้น ด้วยรากสามารถยึดดินได้ ทำให้หาอาหารได้ดีกว่า
โดยในชั้นแรกเราเอาเศษหญ้า เศษฟางกับปุ๋ยหมักไปวางไว้ได้ เพื่อสร้างแพลงตอนและไรน้ำไว้เป็นอาหารปลา การขุดสระแบบนี้ทำให้สามารถเลี้ยงปลาได้หลากหลายกว่า การขุดสระแบบขุดตัดชันลงไปแบบระดับเดียวเหมือนกับเราสร้างบ้านสี่เหลี่ยมไว้สำหรับปลาชนิดเดียว ปลาจะวางไข่ไม่ได้ ต้องว่ายน้ำทั้งวัน ผลสุดท้ายเราได้ปลาหัวโต ไม่ได้ปลาอะไรสักอย่าง
ซึ่งการทำสระเป็นขั้น 4 ขั้นนี้เราทำแต่ละขั้นต่างกัน 50–80 เซ็นติเมตร
ในที่นี้จะปล่อยปลาลงไป 3 ชนิดโดยเน้นปลาดุกเป็นปลาหลักที่จะนำไปขาย คือปลานิล ปลาหมอไทย ปลาดุก ซึ่งเป็นปลาที่มีปากเล็ก กินกันเองไม่ได้ ปลาดุกกินแม่ปลาหมอและแม่ปลานิลไม่ได้ กินได้แต่ลูกปลานิล ลูกปลาหมอ เพราะฉะนั้นลูกปลาหมอ ลูกปลานิลจึงเป็นอาหารปลาดุก
เริ่มต้น เราปล่อยปลานิลขนาด 2 นิ้วหรือจะซื้อปลานิลขนาดโตเต็มวัยจำนวน 2–3 กิโลกรัม ไปปล่อยลงบ่อก่อน ประมาณ 3 เดือนเท่านั้นปลานิลจะขยายพันธุ์ออกลูกออกหลานกันอย่างรวดเร็ว รอให้ปลานิลออกลูกครอกมากจนเป็นที่น่าพอใจก่อน จากนั้นปล่อยปลาหมอขนาดไหนก็ได้ลงไปเพื่อควบคุมจำนวนปลานิลไม่ให้มีมากจนเกินไป จากนั้นให้สังเกตดูในบ่อ หากปลานิลและปลาหมอออกครอก
ซึ่งดูแล้วเหมือนตัวไรแดงๆม้วนอยู่เต็มบ่อ ก็ให้ปล่อยปลาดุกลงไปได้เลย โดยถ้าเป็นสระขนาด 1 ไร่ สามารถปล่อยปลานิล ปลาหมอได้อย่างละ 5,000 ตัว ปลาดุก 10,000 ตัว จำนวนปลาดุกน้อยกว่านี้ได้ แต่อย่าปล่อยปลาดุกมากกว่านี้ เพราะอาหารอาจจะไม่เพียงพอกับจำนวนปลาดุก หลังจากนั้น 4 เดือน ปลาดุกก็จะสามารถทยอยจับได้ตามขนาดที่ต้องการ
ซึ่งสระน้ำเลี้ยงปลาลักษณะ 4 ระดับแบบนี้ ถ้ามีพื้นที่ 1 ไร่ สามารปล่อยปลาได้ถึง 20,000 ตัว เพราะปลาจะกระจายกันอยู่ทั้ง 4 ระดับ ปลาสามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่แออัด ในขณะที่บ่อเลี้ยงปลาแบบขุดตัดชันตรงระดับเดียว ในพื้นที่ 1 ไร่ หากปล่อยปลา 10,000 ตัว ปลาก็อยู่กันแบบหนาแน่นแล้ว เพราะมีพื้นที่ให้ปลาระดับเดียว
นอกจากนี้เรายังสามารถติดโซล่าเซลล์ต่อไฟล่อแมลงตอนกลางคืนให้เป็นอาหารปลาได้ด้วย โดยติดไว้สัก 3 จุด ไม่ซ้ำที่กันในแต่ละคืน
หากกลัวน้ำเสียก็สามารถนำลูกบอลจุลินทรีย์มาใช้บำบัดได้ โดยสังเกตจากอาการของปลา หากปลาลอยหัวขึ้นมาแสดงว่าอ๊อกซิเจนน้อย ก็ให้โยนลูกบอลลงบ่อ 1 ลูกต่อเนื้อที่ 1 ตร.เมตร เพื่อบำบัดเลน เมื่อลูกบอลจุลินทรีย์ตกลงไปถึงชั้นเลนก็ไปสร้างอ๊อกซิเจนให้กับปลา ปลาก็จะดำน้ำได้ลึกขึ้น
เทคนิคการจับปลาที่ต่างจากแบบทั่วไป ปกติการจับปลาเลี้ยงมักจะจับปลาขายหมดในคราวเดียว แต่วิธีนี้จะจับปลาที่ได้ขนาดที่ต้องการเท่านั้น ตัวเล็กที่ไม่ได้ขนาดก็จะปล่อยลงบ่อกลับไป การจับปลาวิธีนี้ทำให้มีปลาจับได้ทุกวัน ขายได้ทั้งปี โดยใช้ลอบแบบนอนและยกยอ ข้อดีคือปลาไม่ช้ำ แค่วางทิ้งไว้ในน้ำ เอาอาหารใส่เข้าไปล่อ ปลาก็จะหลงเข้ามากินอาหาร ก็จะได้ปลาโดยไม่ต้อวเสียค่าน้ำมันวิดน้ำออกหรือค่าแรงงานคนในการจับปลา วิธีการแบบนี้เราสามารถจับปลาได้ทั้งปี ต้องการจับปลาตัวใหญ่ขนาดไหนก็จับตามขนาดนั้น จับมาได้เท่าไหร่ เราก็ปล่อยกลับไปเท่านั้น เช่นจับปลาดุกมา 100 ตัว เราก็ปล่อยลูกปลาดุกกลับไป 100 ตัว
หากเราจะเลี้ยงแต่ปลากินพืชหรือกินเนื้อ ก็สามารถทำได้ แต่ขอให้เป็นปลาที่หากินต่างระดับกัน
และควรปลูกพืชผักหรือไม้ผลรอบบ่อปลาเพื่อเป็นรายได้เสริมและสร้างความชุมชื้น สามารถใช้น้ำจากบ่อปลารดน้ำได้ง่ายดาย พืชผักจะงามด้วยได้ปุ๋ยดีและมีความชุ่มชื้นจากน้ำในบ่อปลา ซึ่งต้นไม้ส่วนใหญ่ชอบมาก ทำให้เจริญเติบโตได้ดี และเราสามารถทำคอกกั้นที่ทำจากไม้ไผ่ปลูกผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักตบชวาเป็นอาหารปลาหรือไว้บริโภคหรือจำหน่ายเป็นรายได้เสริมได้ด้วย แม้ตามริมสระริมบ่อก็ปลูกได้
นี่เป็นอีกหนึ่งเทคนิควิธีในการทำสระเก็บน้ำและเลี้ยงปลาไปในตัว โดยการเลียนแบบหนองน้ำ บึง ธรรมชาติที่มีปลา สัตว์น้ำต่างๆ. พืชน้ำ พืชริมน้ำอาศัยอยู่ร่วมกันหลากหลายซึ่งเป็นความสมดุลย์ในระบบนิเวศน์ เราก็เพียงเอามาทำการจัดการให้ดีขึ้น โดยการวางแผนศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่ดี เราก็สามารที่จะประสบความสำเร็จได้
ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือนิตยสารเกษตรธรรมชาติ โดยผู้ใหญ่สมศักดิ์ เครือวัลย์ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ สองสลึง จ.ระยอง เรื่อง วิธีเลี้ยงปลา ” นิล-หมอ-ดุกไม่ต้องขุนอาหาร “
ขอบคุณที่มา: https://pagenews.net/?p=6527